...

วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

การชดเชยแสง (Exposure Compensation) ตอน1

ในหลายๆ ครั้งที่เราถ่ายรูป แล้วความสว่างของรูปไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการ
อาจมืดหรือสว่างไป จะด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่
เราสามารถปรับแต่งเพิ่มได้ด้วยการ "ชดเชยแสง" ครับ
หน่วยของมัน ในภาษาสากลเรียกว่า "EV"
EV ย่อมาจาก "Exposure Value" เป็นค่าที่ใช้ในการวัดความสว่างของแสง

คำถาม : "ทำไมต้องมีการชดเชยแสงด้วย?"
ตอบ : เพราะในบางสถานการณ์กล้องมันไม่สามารถบันทึกภาพให้เหมือน
หรือใกล้เคียงกับที่ตาเรามองเห็นได้ แม้ว่าเราก็วัดแสงแล้วก็ตาม
รูปที่ได้มานั้นอาจมืดหรือสว่างไป เลยต้องปรับแก้ด้วยการ "ชดเชยแสง"

เช่นในสถานกาณ์แบบนี้ คนเล่นกล้องทุกคนต้องเคยเจอมาแน่ๆ
เมื่อดูภาพหลังจากถ่าย แล้วเกิดคำถามว่า "ทำไมสีมันไม่ดำเหมือนของจริง"
หรือ "ทำไมสีมันไม่ขาวเหมือนของจริง" ทั้งที่เราก็วัดแสงให้มันพอดีแล้ว...

 อย่างรูปนี้ วัดแสงพอดีที่กล้องแล้ว แต่รูปที่ได้
ตัวกล้องกลับไม่ดำเหมือนของจริง กลับดูเหมือนกล้องมีสี "ดำอมเทา"
ซึ่งของจริงมันต้องดำกว่านี้ เมื่อเราเห็นผลลัพธ์ดังนั้นเราก็
"ชดเชยแสงไปฝั่งลบ" เพื่อให้ได้รูปที่ใกล้เคียงกับกับของจริงมากที่สุด
ส่วนวิธีการชดเชยทำอย่างไร เดี๋ยวค่อยว่ากันครับ

มาถึงตรงนี้ ออกตัวไว้ก่อนเลยว่า ผมก็ไม่ได้เก่งถึงกับขนาดที่เห็นรูป
ก็รู้เลยว่า "มันต้องชดเชยไปทางนั้น ด้วยค่าเท่านี้"
มีในบางกรณีเท่านั้นที่รู้ว่าต้องชดเชยแน่ แต่ชดเชยเท่าไหร่นั้น
ส่วนมากก็ต้องลองครับ ลองไปเรื่อยๆ แล้วประสบการณ์มันจะสอนเอง
ว่าในกรณีไหนควรชดเชยเท่าไหร่ หรือเรียกง่ายๆ ว่า
"เดาได้แม่นยำขึ้น" เท่านั้นเอง เช่น

ตอนเล่นกล้องใหม่ๆ นั้น อย่าว่าแต่เดาเรื่องชดเชยเท่าไหร่เลย
แค่เดาว่าชดเชยไปฝั่งบวกหรือลบ "ก็งงแล้ว"
เล่นไปซักพักจะเริ่มจับทางได้เองครับว่า "ต้องชดเชยไปฝั่งไหน"
และเมื่อมีประสบการณ์มากขึ้นอีก ก็จะสามารถเดาได้แม่นยำขึ้นว่า
"น่าจะชดเชยซักเท่าไหร่" บางทีเดาครั้งเดียวถูกเลย
บางครั้งก็ Error นิดหน่อย ชดเชยเพิ่มไปทีสองทีก็เอาอยู่

"หลังจากวัดและชดเชยแสงเป็นแล้ว" สิ่งเดียวที่จะแตกต่างระหว่างมือใหม่กับมือเก่าก็คือ
"เวลาในการถ่ายรูปนั้นๆ" มือเก่าประสบการณ์สูงอาจเลือกจุดวัดแสงได้แม่นยำกว่า
หรือถ้าต้องชดเชยแสง ก็ชดเชยไม่มาก
มือใหม่อาจเลือกจุดวัดแสงไม่แม่น ต้องชดเชยแล้วถ่ายใหม่
บางครั้งต้องชดเชยถึง 2-3 ครั้งว่าจะได้รูปอย่างมือเก่า
แต่ถ้าเราเข้าใจหลักการของมัน "เราได้รูปเหมือนมือเก่าแน่นอน"
อาจใช้เวลามากกว่าไปซัก 1 นาที ซึ่งผมก็ถือว่าไม่เสียหายอะไร


คนที่เล่นกล้องทุกคนต้องเคยได้ยินคำว่า "Stop" แน่นอน
Stop คือหน่วยวัดของกล้องที่ใช้ในการเพิ่มหรือลดค่าต่างๆ ของกล้อง ครั้งละ 1 เท่าตัว เช่น

"เพิ่ม Shutter Speed ขึ้น 1 Stop" หมายถึง "เพิ่ม Shutter Speed ขึ้น 1 เท่าตัว"

ทีนี้เราลองมาดูตัวอย่างคร่าวๆ กันบ้าง
สมมติ ว่าผมตั้ง Shutter Speed อยู่ที่ 1/10Sec
หากเพิ่ม Shutter Speed ขึ้นครั้งละ 1 Stop เป็นจำนวน 3 ครั้ง
จะได้ Shutter Speed ที่เท่าไหร่

- ตั้งต้นที่ 1/10Sec, Stop แรก Shutter Speed ก็ไปอยู่ที่ 1/20Sec ----> เพิ่มขึ้น 1 Stop
- ตั้งต้นที่ 1/20Sec, Stop ที่สอง Shutter Speed ก็ไปอยู่ที่ 1/40Sec ----> เพิ่มขึ้น 2 Stop
- ตั้งต้นที่ 1/40Sec, Stop ที่สาม Shutter Speed ก็ไปอยู่ที่ 1/80Sec ----> เพิ่มขึ้น 3 Stop

หลังจากเพิ่ม Shutter Speed ขึ้น 3 Stop ก็จะได้ Shutter Speed ที่ 1/80Sec นั่นเอง
แต่ การเพิ่มขึ้นครั้งละ 1 Stop นั้น ช่วงมันกว้างมาก ใน 1 Stop จึงแบ่งออกเป็น 3 ช่วงอีกที

นั่นหมายความว่า "ซอย 1 Stop" ออกเป็น 3 ช่วง จะได้ช่วงล่ะ "0.333 Stop"

ช่วงที่ 1 มีค่า 0.333 หรือประมาณ 0.3 Stop
ช่วงที่ 2 มีค่า 0.666 หรือประมาณ 0.7 Stop
ช่วงที่ 3 มีค่า 0.999 หรือประมาณ 1.0 Stop

สำหรับมือใหม่ คุ้นๆ ตัวเลขพวกนี้บ้างไหมครับ คงจะเคยเห็นกันบ้างละนะ
ตัว เลข 0.3, 0.7, 1.0 Stop นี้ เป็นค่าที่ใช้ในการชดเชยระบบต่างๆ ของกล้อง
ไม่ว่าจะเป็น "การเพิ่ม/ลด ขนาดรูรับแสง, Shutter Speed และ ISO" เป็นต้น

ต่อจากข้างบน มาดูตัวอย่างกันอีกที เอาให้เคลียร์


สมมติว่าเราตั้ง Shutter Speed ไว้ที่ 1/10Sec (ดูตาราง s ) แล้ว...

ชดเชยแสง -0.3 EV ---> Shutter Speed ใหม่ที่ได้คือ 1/13Sec
ชดเชยแสง -0.7 EV ---> Shutter Speed ใหม่ที่ได้คือ 1/15Sec
ชดเชยแสง -1.0 EV ---> Shutter Speed ใหม่ที่ได้คือ 1/20Sec

ปล. ชดเชยไปฝั่งลบ Shutter Speed ก็ต้อง "เร็วขึ้น"
ชดเชยไปฝั่งบวก Shutter Speed ก็ต้อง "ช้าลง" อย่าสับสนน่ะครับ

ดูอีกตัวอย่างน่ะครับ(ตาราง S) หาก...

เพิ่ม Shutter Speed ขึ้น 1 Stop ของ 1/10Sec  ---> Shutter Speed ใหม่ที่ได้คือ 1/20Sec
เพิ่ม Shutter Speed ขึ้น 2 Stop ของ 1/25Sec  ---> Shutter Speed ใหม่ที่ได้คือ 1/100Sec
ลด Shutter Speed ลง 1 Stop ของ 1/320Sec  ---> Shutter Speed ใหม่ที่ได้คือ 1/160Sec

ทีนี้มาดูการเพิ่ม/ลด ขนาดรูรับแสงกันบ้าง
1 Stop ของรูรับแสงนั้น หมายถึง "พื้นที่วงกลมที่เพิ่มขึ้น/ลดลง 1 เท่าตัว"
แต่ตัวเลขของรูรับแสงที่เราเห็นนั้น "เป็นรัศมีของวงกลม" ครับ
ฉะนั้น!! ตัวเลขของรูรับแสง "จะไม่เพิ่มขึ้น/ลดลง ครั้งล่ะเท่าตัวเหมือน
Speed Shutter กับ ISO" น่ะครับ


มาดูตัวอย่างกันดีกว่า(ดูรูปจากตาราง F )
สมมติว่าผมตั้งรูรับแสงไว้ที่ F3.5 แล้ว...

ลดขนาดรูรับแสงลง 0.3 Stop ---> ค่าใหม่ที่ได้ก็จะเป็น F4
ลดขนาดรูรับแสงลง 0.7 Stop ---> ค่าใหม่ที่ได้ก็จะเป็น F4.5
ลดขนาดรูรับแสงลง 1.0 Stop ---> ค่าใหม่ที่ได้ก็จะเป็น F5
ปล. 1 Stop ของรูรับแสงนั้น ก็แบ่งออกเป็น 3 ช่วงเช่นกัน
หากเขียนเป็นช่วงให้เห็นชัดๆ ก็สามารถเขียนได้เป็นแบบนี้ครับ
..., -2.0, -1.7, -1.3, -1.0, -0.7, -0.3, 0.0, 0.3, 0.7, 1.0, 1.3, 1.7, 2.0, ...

มาดูวิธีการชดเชยแสงกันบ้าง ในกรณีที่ใช้โหมด A กับ S
หลังจากล็อคค่าแสงแล้วก็
1. กดปุ่มชดเชยแสง(ปุ่มที่มีเครื่องหมาย +/-) ค้างไว้
2. หมุนวงแหวนเพื่อเลือกค่าการชดเชยแสง
แต่ชดไปทางไหน เท่าไหร่นั้น ต้องดูเอาเองครับ ไม่มีใครสามารถบอกได้

ส่วนโหมด M "ชดเชยด้วยปุ่มชดเชยแสงไม่ได้นะ"
ต้องชดเชยด้วยการปรับ "รูรับแสงกับ Shutter Speed" ครับ

มาดูตัวอย่างการชดเชยแสงกันบ้างดีกว่า เช่น
สมมติว่า ผมใช้โหมด A ตั้งค่ารูรับแสงไว้ที่ 3.5 ถ่ายวิวรูปนึง

หลังจากวัดและล็อคค่าแสงแล้วกล้องมันเลือก Shutter Speed ให้ที่ 1/100Sec
แต่ปรากฏว่ารูปมืดไป(Under) ก็แก้ด้วยการชดเชยแสงเพิ่มขึ้น

- ชดเชยแสงครั้งแรก +0.3 Stop กล้องมันก็จะไปเปลี่ยน Shutter Speed เป็น 1/80Sec ---> หากรูปยังสว่างไม่พอก็
- ชดเชยแสงครั้งที่สอง +0.7 Stop กล้องมันก็จะไปเปลี่ยน Shutter Speed เป็น 1/60Sec ---> หากรูปยังสว่างไม่พอก็
- ชดเชยแสงครั้งที่สาม +1.0 Stop กล้องมันก็จะไปเปลี่ยน Shutter Speed เป็น 1/50Sec ---> (สมมติว่า แสงพอดีแล้ว)
ในทางกลับกัน

หากผมใช้โหมด S ตั้ง Shutter Speed ไว้ที่ 1/50Sec ถ่ายวิวรูปนึง
หลังจากวัดและล็อคค่าแสงแล้วกล้องมันเลือก ขนาดรูรับแสงให้ที่ F6.3

แต่ปรากฏว่ารูปสว่างไป(Over) ก็แก้ด้วยการชดเชยแสงลดลง

- ชดเชยแสงครั้งแรก -0.3 Stop กล้องมันก็จะไปเปลี่ยน ขนาดรูรับแสงเป็น F7.1 ---> หากรูปยังสว่างเกินไปก็
- ชดเชยแสงครั้งที่สอง -0.7 Stop กล้องมันก็จะไปเปลี่ยน ขนาดรูรับแสงเป็น F8 ---> หากรูปยังสว่างเกินไปก็
- ชดเชยแสงครั้งที่สาม -1.0 Stop กล้องมันก็จะไปเปลี่ยน ขนาดรูรับแสงเป็น F9 --->(สมมติว่า แสงพอดีแล้ว)

ปล. จริงๆ แล้วเมื่อถ่ายเล่นไปซักระยะหนึ่ง ก็จะสามารถประเมินได้ว่ารูปนั้นๆ ควรชดเชยเท่าไหร่
ไม่จำเป็นต้องชดเชยครั้งล่ะ 0.3 เหมือนอย่างที่ผมเขียนไว้น่ะครับ
ผมแค่เขียนให้เห็นภาพชัดๆ เท่านั้นเอง

วันนี้หมดเวลาแล้ว งานด่วนเข้า เอาไว้ติดตามตอนต่อไปนะครับ
ลองไปทำความเข้าใจ และลองฝึกหัดดูครับ ใจเย็นๆ อ่านช้าๆ
คงจะเข้าใจได้ไม่ยากครับ..

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น